คนท้องกินชาได้ไหม : ส่งผลอันตรายกับลูกในท้องหรือไม่

ช่วงตั้งครรภ์มักจะมีข้อห้ามอะไรมากมายสำหรับคุณแม่กำลังท้อง โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ข้อห้ามคนท้องมีมากมาย จะกินอะไรก็ระวังนู้นนี่นั่นเต็มไปหมด เป็นที่รู้กันดีว่าไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณคาเฟอีนเกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะจะทำให้แท้งง่ายนั้นจริงหรือไม่ คนท้องกินชาได้ไหมกินบ่อย ๆ จะเป็นอะไรหรือเปล่า กลัวลูกในท้องเป็นอันตราย แต่ก็อยากกิน อดไม่ได้ต้องทำยังไงดี สำหรับแม่ท้องที่ชอบดื่มชามาดูกันว่า ดื่มชาตอนท้องนั้น จะส่งผลอันตรายกับลูกในท้องหรือไม่ มาติดตามกัน

มีอะไรอยู่ในใบชา

ในใบชามีสารชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นั่นก็คือ Camellia sinensis (L.) Kuntze ซึ่งช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย แถมยังฆ่าเชื้อได้อีก แต่มีสารอีกชนิดหนึ่งชื่อว่า “สารแทนนิน”

สารแทนนินคืออะไร

สารแทนนิน หรือสารฝาด จะพบในผักผลไม้ที่มีรสฝาด คุณค่าทางอาหารหรือประโยชน์ของสารตัวนี้น้อยมาก และอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้อีก เช่น มะเร็งในช่องปากผ่านการเคี้ยว มะเร็งทางเดินอาหาร และมะเร็งตับ ในทางกลับกัน มีงานวิจัยหลายชิ้นบอกว่า สารนี้ก็มีประโยชน์เหมือนกันน่ะ เพราะช่วยต้านการก่ออนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็ง และช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย

เอ๊ะ ! ตกลงแล้วมันดีหรือไม่ดีกันแน่ สรุปว่าสารนี้มีทั้งคุณและโทษ ถ้าจะกินแล้วดีต้องกินแบบพอดี หากกินมากไปจะเกิดภาวะเสี่ยงของโรค และยังเป็นตัวยับยั้งการดูดซึมวิตามินและเกลือแร่บางชนิด เช่น วิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก ลดการดูดซึมโปรตีน และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายนั่นเองค่ะ

คนท้องกินชาได้ไหม

ชาเย็น มีส่วนประกอบคาเฟอีนอยู่ด้วย สารนี้เป็นที่รู้กันว่าเป็นส่วนหนึ่งของกาแฟ เมื่อสารแทนนินรวมกับคาเฟอีนในชาเย็นในปริมาณมาก ทำให้คนกินรู้สึกอึดอัด ท้องผูก อาหารไม่ย่อย แต่สำหรับแม่ท้องมันยังมีมากกว่านั้น ธาตุเหล็กในตัวแม่ๆ จะลดน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งกับตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์แน่ ๆ

ชาเขียว คาเฟอีนในชาเขียวนั้น มีน้อย แต่ไม่ใช่ไม่มีเลยนะค่ะ เพียงแต่ปริมาณต่อ 1 ถ้วยอยู่ที่ประมาณ 10-50 มิลลิกรัมเท่านั้น ถ้าเทียบแล้วแตกต่างกับกาแฟลิบลับ ดังนั้น ชาเขียวจึงไม่ใช่ข้อห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพียงแต่ไม่ควรดื่มบ่อยนัก

ชาสมุนไพร ชาสมุนไพร แม้จะไม่มีคาเฟอีนแต่ต้องระวังเหมือนกัน เพราะสมุนไพรหลายชนิดยังไม่มีการศึกษาความปลอดภัยในคนตั้งครรภ์ยกเว้น ชาเปปเปอร์มินต์ และชาขิง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง และจัดว่าปลอดภัย

ชาสมุนไพรนิยมดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพ และเป็นยาแก้อาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ มากกว่าค่ะ ไม่มีคาเฟอีน และส่วนใหญ่มีวิธีทำง่าย ๆ โดยหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตากลมจนแห้ง แล้วค่อยเก็บใส่โหลมิดชิด เมื่อต้องการดื่มก็นำมาชงกับน้ำร้อนแล้วกรอง ปรุงรสด้วยน้ำผึ้งก็ได้

– ชาขิง    แก้คลื่นไส้อาเจียน

– ชาตะไคร้   ช่วยย่อยอาหาร แก้วิงเวียน

– ชาใบเตย   ช่วยคลายร้อนหอมชื่นใจ และลดน้ำตาลในเลือด

– ชามะตูม   มีกลิ่นหอมหวานบำรุงธาตุ แก้ร้อนใน

– ชาโป๊ยกั๊กชาโป๊ยกั๊ก หรือโป๊ยกั๊กที่เป็นเครื่องเทศในผงพะโล้ มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง อาเจียน และช่วยย่อยอาหารย่อยยาก ปรับการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติ

– ชาเปปเปอร์มินต์  มีคุณสมบัติช่วยเร่งการย่อยอาหารให้เร็วขึ้น ทำให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉง สดชื่น

ชาดอกคำฝอย ต้องห้ามสำหรับคนท้อง

ชาดอกคำฝอยมีสรรพคุณทั่วไปอาจจะดูว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร  แต่สรรพคุณในเรื่องแก้ประจำเดือนมาไม่ปรกติ คือ การขับเลือดนั่นเอง  เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทำให้มดลูกเกิดการบีบตัว ถือเป็นอันตรายสำหรับแม่ตั้งครรภ์  จึงเป็นเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่เองและทารกน้อยในครรภ์ค่ะ

ดังนั้นในระยะตั้งครรภ์คุณแม่ท้องควรหลีกเลี่ยงการดื่มสมุนไพรชนิดนี้ แต่หลังคลอดแล้วสามารถใช้สมุนไพรดอกคำฝอยเป็นยาขับน้ำคาวปลา ช่วยลดอาการปวดท้องเนื่องจากมดลูกไม่เข้าที่ได้ อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่สมุนไพรดอกคำฝอย หากแม่ท้องมองหาสมุนไพรกินเพื่อบำรุงสุขภาพก็ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเลือกนำมาประทานกันนะคะ

แม่ท้องควรรู้ว่าดอกคำฝอยจะมีสรรพคุณที่หลากหลาย แต่ก็สามารถส่งผลกระทบสำหรับสตรีมีครรภ์ เนื่องจากสมุนไพรดอกคำฝอยมีฤทธิ์เป็นยาบำรุงเลือดและช่วยขับประจำเดือน ทำให้มดลูกบีบตัว หากรับประทานในปริมาณที่มาก ก็อาจเสี่ยงที่จะแท้งบุตรได้ ซึ่งเรื่องนี้มีการทดสอบและวิจัยทางการแพทย์แล้วว่าก่อให้เกิดอาการดังกล่าวได้จริง!

นอกจากนี้การรับประทานอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลให้โลหิตจาง มีผลทำให้เลือดน้อย มีอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ และอาจส่งผลต่อระบบเลือดได้หากใช้ไม่ถูกวิธี ซึ่งในทางแพทย์แผนจีนมักจะใช้ดอกคำฝอยร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นด้วย ไม่ใช้เป็นยาเดี่ยว ควรใช้ปริมาณที่เหมาะสมและไม่ใช้ติดต่อกันเป็นระยะยาว อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่สมุนไพรดอกคำฝอย หากแม่ท้องมองหาสมุนไพรกินเพื่อบำรุงสุขภาพก็ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเลือกนำมาประทานกันนะคะ

กินชาอย่างไรถึงพอดี

อย่างที่บอกข้างต้นว่าชาถ้ากินมากไปไม่ดี แล้วที่เรียกว่ามากไปล่ะวันล่ะกี่แก้ว? คนทั่วไปคนกินลันละไม่เกิน 2 แก้ว แต่ถ้ากินมากถึงวันละมากกว่า 6-8 แก้วต่อวันนี่สิ ความเสี่ยงได้ตามมาแน่ ๆ และยังส่งผลถึงลูกในท้อง ดังนี้

  • ทำให้การเต้นของหัวใจของลูกในท้องเต็วเร็วผิดปกติ ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อทารกเสียชีวิตในครรภ์ได้
  • ทำให้ร่างกายขาดน้ำ และดคลเซียม เนื่องจากคาเฟอีนจะขับสิ่งเหล่านี้ออกมาทางปัสสาวะนั่นเอง
  • น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและเบาหวาน หากแม่ๆ เลือกที่กินชาเย็นแบบหวานอยู่ แน่นอนว่าถ้าแม่ท้องเป็น ลูกก็จะมีโอกาสเป็นเบาหวานที่สืบทอดผ่านพันธุกรรมด้วย
  • ลูกในท้องโตช้า พัฒนาการต่ำ เพราะสารนี้จะทำให้แม่นอนไม่ค่อยหลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งมันจะส่งต่อไปยังลูกน้อยในท้องด้วย

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เดินเยอะ ยืนนาน หรือมีอาการปวดตัว ปวดหลัง ปวดหน่วง บริเวณท้อง ต้องกุมท้องช่วยพยุงตลอดเวลา ทาง Mama Beyond มีตัวช่วยมาแนะนำ Mama Beyond เข็มขัดพยุงครรภ์ นวัตกรรมจากสหรัฐอเมริกา ช่วยให้หายปวดหลังขณะตั้งครรภ์ เบาสบาย เดินได้คล่องขึ้น สนใจสั่งซื้อ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mamabeyond.com/